หลวงปู่จันทร์ กระหลั่ยทอง ยันต์วัด พ.ศ. 2515

กระหลั่ยทองเดิม ๆ ครับ

------------------------------

คัดลอกจากบางตอนของหนังสือชีวประวัติและปฏิทาหลวงปู่จันทร์ คณะศิษยานุศิษย์พิมพ์อุทิศถวายท่านเจ้าคุณปู่พระเทพสิทธาจารย์ (เขมิยเถระ จันทร์ สุวรรณมาโจ) ในงานเสด็จพระราชดำเนิน พระราชทานเพลิงศพ พระเทพสิทธาจารย์ ณ เมรุวัดศรีเทพประดิษฐานราม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2522 (หน้า 153 – 155)

เรื่องบารมีธรรม (กะโกงกาง)

“ ..... อีกเรื่องหนึ่ง นางเอียวลั้งเล่าว่า เฒ่าแก่ชั่งฮงผู้เป็นสามีของนางเอง ขับรถยนต์จิ๊บเล็กไปทำธุระที่จังหวัดอุดรธานี ขับรถยนต์ไปเพียงคนเดียวตามถนนสายนครพนม – อุดรธานี ซึ่งยังเป็นถนนหินลูกรังธรรมดาตลอดสาย ยังไม่ได้ลาดยางเหมือนในปัจจุบันนี้ หลังจากเฒ่าแก่ชั่งฮงผู้เป็นสามีเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีแล้วได้ 2 วัน ท่านเจ้าคุณปู่ฯ ได้สั่งให้ลูกศิษย์ที่เป็นเด็กนักเรียนคนหนึ่งไปบอกนางที่บ้านว่า ท่านเจ้าคุณปู่ฯ ต้องการพบสั่งให้มาบอกให้ไปพบเดี๋ยวนี้ ท่านสั่งว่ามีธุระอะไรให้งดไว้ก่อน เมื่อนางได้ยินเช่นนั้นก็นึกร้อนใจเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีเรื่องหรือเหตุสำคัญอะไร ท่านเจ้าคุณปู่ฯ จึงสั่งให้ไปพบอย่างรีบด่วน หรือตนเองทำความผิดอะไร เมื่อนึกทบทวนดูแล้วก็ไม่เห็นความผิดอะไร จึงรีบแต่งตัวนั่งสามล้อไปยังวัดศรีเทพประดิษฐาราม เมื่อไปถึงก็ขึ้นไปกราบท่านที่ห้องรับแขก

ท่านเจ้าคุณปู่ฯ จึงถามนางผู้กราบนั่งลงเรียบร้อยแล้วว่า เฒ่าแก่ชั่งฮงไปไหน นางตอบท่านว่าไปจังหวัดอุดรธานี ท่านถามว่าไปกี่วัน นางตอบท่านว่าไปได้ 2 วันแล้ว ท่านถามว่าจะกลับวันไหน นางตอบว่าจะกลับมาวันนี้ ท่านพูดว่า กะโกงกาง นางจึงเรียนถามท่านว่า เป็นอะไรหรือเจ้าค่ะ ท่านตอบว่าไม่เป็นอะไรหรอก กะโกงกาง แล้วพูดว่าจงนั่งอยู่เฉย ๆ จะประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้ จากนั้นท่านก็ถือหม้อน้ำพระพุทธมนต์ด้วมือซ้าย ถือมัดหญ้าคาด้วยมือขวา ลุกขึ้นยืนเดินวนเวียนนาง 3 รอบ พร้อมกับเสกคาถา กะโกงกาง ปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้นาง เมื่อประน้ำพระพุทธมนต์เสร็จแล้วก็พูดว่า เฒ่าแก่ชั่งฮงไม่กลับวันนี้ แต่จะกลับมาวันพรุ่งนี้ เมื่อเฒ่าแก่ชั่งฮงกลับมาแล้วจงพามาพบปู่ที่วัดโดยเร็ว นางก็รับคำของท่านจากนั้นก็กราบลาท่านกลับไปบ้าน ในใจก็นึกสงสัยว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นแก่เฒ่าแก่ชั่งฮงผู้เป็นสามีแน่ แต่ก็มีความเบาใจมั่นใจว่า ถึงจะมีเหตุเกิดขึ้นแก่สามีของนางก็คงจะไม่เป็นอะไร เพราะท่านเจ้าคุณปู่ฯ ได้ให้คำรับรองไว้ว่าไม่เป็นอะไร

ตอนเย็นวันนั้น เฒ่าแก่ชั่งฮงผู้เป็นสามีก็ไม่กลับมาตามที่พูดไว้ก่อนเดินทางไป แต่กลับมาถึงในวันรุ่งขึ้นถูกต้องตามคำที่ท่านเจ้าคุณปู่ฯ พูดไว้ว่า เฒ่าแก่ชั่งฮงไม่กลับวันนี้แต่จะกลับมาวันพรุ่งนี้ ตอนบ่ายวันรุ่งขึ้นจึงเห็นเฒ่าแก่ชั่งฮงกลับมา ตามใบหน้าและตามร่างกายมอมแมมเต็มไปด้วยผงซีเมนต์ นางจึงถามเฒ่าแก่ชั่งฮงผู้เป็นสามี เฒ่าแก่ชั่งฮงผู้เป็นสามีเล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนขาไปนั้นขับรถจิ๊บถนนไม่ดีรถกระโดดเต้นมาก ตอนขากลับจึงซื้อถุงปูนซีเมนต์สองถุงใส่ไว้ท้ายรถ ป้องกันมิให้รถกระโดดเต้นมากเกินไป เมื่อจัดซื้อถุงปูนซีเมนต์ใส่ไว้ในท้ายรถเรียบร้อยแล้ว ก็ขับรถเดินทางกลับ เมื่อขับรถมาตามถนนยังไม่ถึงจังหวัดสกลนครเลย รถเจ้ากรรมก็ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำถึง 3 พลิก ตัวเฒ่าแก่ชั่งฮงตกกระเด็นออกจากรถลงไปนอนคว่ำหน้าอยู่ที่ก้นหนองเล็ก ๆ ข้างทาง หนองนั้นลึกพอสมควร รถก็พลิกไปทับหงายท้องขึ้นฟ้า หลังคารถพลิกมาปิดปากหนองพอดี ถุงปูนซีเมนต์แตกกระจายไปหมด จะลุกขึ้นก็ลุกไม่ได้เพราะติดหลังคารถ แต่ยังเคราะห์ดีที่มีคนแถวนั้นประสบเหตุการณ์ ได้ช่วยกันยกรถจิ๊บออก เฒ่าแก่ชั่งฮงจึงลุกขึ้นได้ไม่เป็นอันตรายแต่ประการใด ส่วนรถยนต์จิ๊บมีเสียหายบ้างเฉพาะหลังคาเท่านั้น ตัวถังรถและเครื่องยนต์ไม่เสียหายอะไร เมื่อได้ตั้งใจมั่นเป็นปกติดีแล้ว ก็ขับรถเดินทางกลับมาจนถึงบ้านนี้แหละ

นางเอียวลั้งเมื่อได้ยินสามีเล่าเหตุการณ์ให้ฟังแล้วก็นึกในใจว่า ท่านเจ้าคุณปู่ฯ คงจะรู้ล่วงหน้าว่า เฒ่าแก่ชั่งฮงผู้เป็นสามีจะต้องประสบอุบัติเหตุ จึงสั่งให้นางไปพบที่วัดอย่างรีบด่วน เพื่อแก้ไขเหตุการณ์ที่หนักให้กลายเป็นเบา ที่ร้ายให้กลายเป็นดีอย่างแน่นอน จึงพาเฒ่าแก่ชั่งฮงผู้เป็นสามีไปพบท่านที่วัดตามสั่งโดยเร็ว ท่านเจ้าคุณปู่ฯ ก็จัดการให้เฒ่าแก่ชั่งฮงอาบน้ำพระพุทธมนต์เรียบร้อย การที่เฒ่าแก่ชั่งฮงรอดพ้นปลอดภัยจากอันตราย เนื่องจากรถยนต์ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำนั้น ก็เพราะอำนาจเมตตาจิตอันเป็นบารมีธรรม ที่ท่านเจ้าคุณปู่ฯ ได้ส่งไปช่วยเหลือเป็นแน่แท้ นางเอียวลั้งกล่าวในที่สุด ..... ”


ปล. นางเอียวลั้ง ตามบันทึกของหนังสือฉบับนี้กล่าวไว้ว่าท่านเป็นเจ้าของร้านชั่งฮง เจ้าของโรงภาพยนตร์เฉลิมสิน และบุตรชายของท่านยังเป็นเจ้าของนครพนมทัวร์ด้วย คนจังหวัดนครพนมน่าจะรู้จักท่านดีกว่าผมครับ


-----------------------------------

" ร่วมรณรงค์ต่อต้าน ไม่ซื้อ ไม่ขาย เหรียญที่ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อคงไว้ซึ่งคุณภาพและชื่อเสียงของท่านเจ้าคุณปู่ครับ "